MOLDED CASE CIRCUIT BREAKER (MCCB) คือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่หุ้มด้วยเคสแบบมิดชิด ใช้ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและไฟฟ้าเกินพิกัด เป็นที่นิยมอย่างมากในอุตสาหกรรม เพราะ สะดวกในการใช้งานเหมาะกับการติดตั้งในตู้โหลดกลาง ทนกระแสลัดวงจรได้ดี และยังมีพิกัดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรให้เลือกใช้ตั้งแต่หลักสิบแอมป์ไปถึงหลักร้อยแอมป์ แต่แรงดันไฟฟ้าต้องไม่เกิน 1000 โวลล์
หลักการทำงานของ MCCB Mitsubishi มี 2 วิธี คือ การตัดวงจรแบบ Automatic และ การตัดวงจรแบบ Manual
การตัดวงจรแบบ Automatic มี 3 วิธีหลักๆ คือ Thermal-Magnetic trip , Hydraulic-Magnetic trip , Electronic trip แต่ละวิธีทำงานแต่งต่างกันดังนี้
– Thermal-Magnetic trip เป็นการตัดวงจรแบบผสมใช้ทั้งความร้อนและการเหนี่ยวนำของขดลวด มาเป็นตัวตัดวงจรไฟฟ้า เมื่อมีกระแสไหลผ่านมากเกินกำหนดจะทำให้แผ่นโลหะ bimetal (เป็นแผ่นโลหะ 2 ชนิด ที่มีคุณสมบัติ ทางความร้อนต่างกัน) งอตัวไปทำให้กลไกลการตัดวงจรทำงาน และ หากกระแสไหลผ่านมากสนามแม่เหล็กจะเกิดความเข้มข้นขึ้น พอถึงค่าๆหนึ่งจะทำให้กลไกลการตัดวงจรทำงานเช่นกัน
– Hydraulic-Magnetic trip เป็นการตัดวงจรโดยมีขดลวดและสปริงตัดวงจร เมื่อมีกระแสไหลผ่านเกินกำหนด จะทำให้มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กเพิ่มขึ้นไปดึงสปริงและจะทำให้กลไกลการตัดวงจรรทำงาน ทำให้กระแสไหลผ่านไม่ได้
– Electronic Trip เป็นการตัดวงจรไฟฟ้าโดยมีการนำเอาวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถปรับค่ากระแสเกินพิกัดได้ ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์จะมีไมโครโปรเซนเซอร์ช่วยวิเคราะห์ค่ากระแสไฟฟ้า หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินพิกัดที่กำหนด ไมโครโปรเซนเซอร์จะทำหน้าที่สั่งการกลไกลการตัดวงจรไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านได้
3 วิธีข้างต้นที่กล่าวมานี้ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินกำหนดและทำให้กลไกลตัดวงจร ตัวคันโยกจะทิปไปตำแหน่งตรงกลางระหว่าง ON และ OFF ดังรูป
การตัดวงจรแบบ Manual เป็นการตัดวงจรด้วยการใช้มือหรืออุปกรณ์ ในการไปเลื่อนตัวคันโยกหน้า MCCB
MOLDED CASE CIRCUIT BREAKER (MCCB) Mitsubishi มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตาม ความเหมาะสม
รุ่นที่นิยมใช้มากในอุตสาหกรรมคือ รุ่น NF-C (Economy class) เป็นรุ่นเล็กราคาประหยัด และใช้งานสะดวก
หลักเกณฑ์การเลือกใช้งาน MOLDED CASE CIRCUIT BREAKER (MCCB) Mitsubishi
ต้องรู้ว่าใช้ไฟฟ้ากี่เฟส จึงจะเหมาะสมกับ จำนวน Pole ที่จะใช้งานและค่าพิกัดกระแส โดยการเลือกใช้ MCCB จะต้องเหมาะสมในการใช้งาน เช่น ไฟฟ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมหรือตึกอาคาร ควรใช้ MCCB 3-4 Pole เพราะต้องใช้กับไฟฟ้า 3 เฟส และ ที่พักอาศัยทั่วไป 1-2 Pole ใช้กับไฟฟ้า 1 เฟส จำนวน Pole แต่ละจำนวนมีความเหมาะสมและแตกต่างกัน ดังนี้
MCCB 4 Pole เหมาะกับการใช้งานกับไฟฟ้า 3 เฟส โดยมีการป้องกันสาย Line และ สาย Neutral ระบบความปลอดภัยสูง
MCCB 3 Pole เหมาะกับการใช้งานกับไฟฟ้า 3 เฟส โดยมีการป้องกันสาย Line
MCCB 2 Pole เหมาะกับการใช้งานกับไฟฟ้า 1 เฟส โดยมีการป้องกันสาย Line และ สาย Neutral
MCCB 1 Pole เหมาะกับการใช้งานกับไฟฟ้า 1 เฟส โดยมีการป้องกันสาย Line
ค่าพิกัดกระแส เป็นค่าที่บอกถึงความสามารถในการทนกระแสของ MCCB แต่ละตัว โดยมี 3 ค่าหลักๆ ดังนี้
- Interrupting capacitive (IC) คือ พิกัดทนกระแสลัดวงจรสูงสุด
- Amp Trip (AT) คือ ค่าการทนกระแสที่ใช้งานในภาวะปกติ
- Amp Frame(AF) คือ ค่าการทนกระแสสูงสุดของเคสหุ้มอุปกรณ์
คุณสมบัติของ MOLDED CASE CIRCUIT BREAKER (MCCB) Mitsubishi รุ่น NF63-CV
- ขนาดเฟรม AF = 63AF
- กระแสลัดวงจร (kA) = 7.5kA (ที่230VAC) , 5kA (ที่380 VAC)
- มี Pole ให้เลือก 2-3 Pole
- ขนาดพิกัดกระแส = 3,4,6,10,16,20,25,32,40,50,63 AT